stem
โครงงานสะเต็มศึกษา
หน่วยบูรณาการวิถีพอเพียง
เรื่อง ก้อนดับกลิ่น
โดย
ด.ญ.ชนิกา ชัยแก้ว เลขที่ 17 ม.2/11
ด.ญ.ปภาวรินทร์ แสงมณี เลขที่ 20
ม.2/11
ด.ญ.พรชฎา วัฒนาไพศาล เลขที่23 ม.2/11
ด.ญ.สุชานาฏ แก่นพรหมมา เลขที่ 28 ม.2/11
ด.ญ.สุภัค คงเมือง เลขที่ 29 ม.2/11
ครูประจำวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
คุณครูวิไลกร พงศ์ดี
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ คุณครูสุฐิยา เพชรวงษ์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คุณครูกัลป์ยานี สุดทองคง
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม คุณครูพูนสุข เพ็งสถิตย์
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
คุณครูจราภร เกื้อเดช
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
คุณครูวุฒิชัย อินทรัตน์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี คุณครูสุนันทา ดนัยสร
กลุ่มสาระการเรียนภาษาต่างประเทศ
คุณครูอาภรณ์ พงศ์ประยูร
กลุ่มสาระการเรียนรู้กิจกรรมแนะแนว
คุณครูลาวัลย์ เผือกสุวรรณ
โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา
รายงานนี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานสะเต็มศึกษา
ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2/11
บทคัดย่อ
การทำโครงงานสะเต็มเรื่อง
ก้อนดับกลิ่น มีวัตถุประสงค์ เพื่อทำก้อนดับกลิ่น
เป็นการนำอุปกรณ์ที่สามารถ
หาได้ง่ายๆมาทำ
และเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และสามารถสร้างรายได้ได้ โดยสามารถลดปริมาณ
สารเคมีที่เราจะได้รับจากการสูดดมสารดับกลิ่นที่ซื้อมาได้อีกด้วย
กิตติกรรมประะกาศ
ขอขอบคุณผู้ที่ให้ความช่วยเหลือต่างๆทั้ง
คุณครูสุฐิยา เพชรวงศ์ และคุณครูฤทัยรัตน์ที่คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำโครงงานเรื่องนี้
จนทำให้โครงงานนี้สำเร็จได้
และขอขอบคุณพ่อแม่ผู้ปกครองที่คอยช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ
ทั้งเรื่องสถานที่ทำงาน ข้อมูลในบางเรื่อง ค่าใช้จ่ายต่างๆ และการคอยรับส่งไปทำงาน
และสุดท้ายก็ขอขอบคุณเพื่อนๆในกลุ่ม ทั้ง เด็กหญิงชนิกา ชัยแก้ว
เด็กหญิงปภาวรินทร์ แสงมณี เด็กหญิงพรชฎา วัฒนาไพศาล เด็กหญิงสุชานาฏ แก่นพรหมมา
และเด็กหญิงสุภัค คงเมือง ที่คอยช่วยเหลือ ช่วยกันทำงานนี้จนสำเร็จได้
บทที่ 1
1.แนวคิดที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาของโครงงานนี้มาจากการที่ในที่ที่เราอาศัยอยู่ เช่น ห้องเรียน
ห้องนอน มักจะมีกลิ่นเหม็น เช่น กลิ่น
เหงื่อ
กลิ่นถุงเท้า กลิ่นอาหาร
จึงต้องซื้อที่ดับกลิ่นมาใช้ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองเงินและในบางครั้งในที่ดับกลิ่นนั้นอาจ
จะมีสารที่เป็นอันตรายต่อตัวเราอยู่ จึงมีแนวคิดที่จะทำที่ดับกลิ่น
โดยเชื่อมโยงกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ
การนำเปลือกส้ม
ที่มีทั้งกลิ่นหอมและสามารถไล่ยุงได้มาทำเป็นที่ดับกลิ่น ซึ่งเปลือกส้มนี้ได้มาจากทางบ้านของ
สมาชิกแต่ละคนซื้อส้มมาทานบ่อยและจะต้องทิ้งเปลือกส้ม
จึงนำเปลือกส้มมาทำเป็นผลงานชิ้นนี้
2.วัตถุประสงค์ของโครงงาน
2.1 เพื่อทำที่ดับกลิ่น กลิ่นส้ม
2.2 เพื่อให้ที่ดับกลิ่นมาใช้เอง
และช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
3.ขอบเขตและข้อจำกัดความของโครงงาน
อุปกรณ์ที่ใช้
1)ผงวุ้นหรือเจราติน
2)น้ำสะอาด
3)บรรจุภัณฑ์
4)หม้อ
5)ช้อน
6)กลิ่นสังเคราะห์ที่ต้องการ
4.ประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 ทำให้ได้ที่ดับกลิ่นกลิ่นส้มมาใช้เอง
เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
4.2 ได้นำสิ่งของเหลือใช้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ที่ดับกลิ่นกลิ่นส้ม
ผู้จ้ดทำได้รวบรวมแนวคิดต่างๆจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
สรรพคุณทางยาของเปลือกส้ม
เปลือกส้มซึ่งมีรสขมจะช่วยในการย่อยอาหาร
ช่วยกำจัดแก๊สในช่องท้อง บรรเทาอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนและเรอเหม็นเปรี้ยว
อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นความอยากอาหารด้วย
ขณะที่ผงเปลือกส้มจะช่วยละลายเสมหะในระบบทางเดินหายใจ บรรเทาอาการไอ และโรคหอบหืด
เป็นต้น น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มมีคุณสมบัติต้านจุลินทรีย์และแก้อักเสบ
ลดกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้ รักษาการเคลื่อนที่ของลำไส้
และส่งเสริมการทำงานของตับด้วย
นอกจากนี้เปลือกส้มยังสามารถละลายคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
ซึ่งหมายความว่าเปลือกส้มมีประโยชน์ต่อคนอ้วนที่มีระดับคลอเรสเตอรอลสูง
และมีฟลาโวนอยด์หรือที่รู้จักกันดีว่าเฮสเพอริดีนซึ่งสามารถต้านโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคกระดูกพรุน
ยังไม่หมดเพียงแค่นี้น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มยังทำหน้าที่คล้ายกับยากล่อมประสาทช่วยทำให้สมองผ่อนคลายและนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
1.
บำรุงสุขภาพฟันและกระดูก จากผลการศึกษาของ Purdue University พบว่า ในเปลือกส้มประมาณ 100 กรัมจะมีปริมาณแคลเซียมสูงถึง 161
มิลลิกรัม ซึ่งมีแนวโน้มจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันของเราได้สบาย ๆ
2. คลายเครียด
กลิ่นส้มเป็นกลิ่นซิตรัสที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการช่วยผ่อนคลายระบบประสาทของร่างกายได้
โดยแค่นำเปลือกส้มมาคั้นให้น้ำมันหอมระเหยในเปลือกส้มไหลออกมา
จากนั้นจะนำมาสูดดมเติมความสดชื่น
หรือนำมานวดแก้ปวดเมื่อยตามร่างกายก็แล้วแต่สะดวก
3.
แก้นอนไม่หลับ กลิ่นซิตรัสจากน้ำมันหอมระเหยในเปลือกส้มมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง
ซึ่งจะมีฤทธิ์คล้ายกับยากล่อมประสาท ช่วยให้สมองรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
4. บำรุงสายตา
เบต้าแคโรทีนและวิตามินเอเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาได้ อย่างที่รู้ ๆ กันมา
ซึ่งในเปลือกส้มก็มีสารทั้ง 2 ชนิดนี้อยู่มากพอสมควรด้วยนะคะ
5. เปลือกส้ม
รักษาสิว ผิวอักเสบ ในเปลือกส้มมีน้ำมันหอมระเหยอยู่หลายชนิด
ทั้งซิตรัล (citral)
เจอรานิออล (geraniol) และไลนาโลออล (linalool) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในการทำความสะอาด
โดยเฉพาะกับผิวหนังที่เป็นสิว หรือมีสิวอักเสบเนื่องจากสิ่งสกปรก
ให้ล้างเปลือกส้มให้สะอาด จากนั้นนำเปลือกส้มไปบดละเอียด
ผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อยแล้วนำมาแต้มสิว หรือพอกผิวที่เกิดการอักเสบ นาน 20-30 นาที แล้วล้างออก อาการอักเสบบนผิวหนังจะบรรเทาลงได้
เปลือกส้มกับการทำอาหาร
ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นของอาหาร
อีกทั้งยังช่วยดูดซับความชื้นจากน้ำตาล
ขนมหวานที่ทำจากเปลือกส้มจะช่วยกระตุ้นรสชาติและเพิ่มความอยากอาหาร
นอกจากนี้วิตามินซีในเปลือกส้มจะช่วยป้องกันการเกิดโรคมากมา
6.
แก้กรดไหลย้อน ผลการศึกษาจาก University of Michigan Health System เผยว่า หากนำเปลือกส้มตากแห้งประมาณ 1-2 กรัม มาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยตวง แล้วจิบเป็นชาเปลือกส้ม
จะช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย หรือแก้กรดไหลย้อนได้
เนื่องจากเปลือกส้มมีสารโพลีแซกคาไรด์ ชนิดไม่ละลายน้ำ
ที่สามารถกระตุ้นการย่อยอาหาร อีกทั้งยังมีสารแทนนิน และเฮมิ-เซลลูโลส
โมเลกุลคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติลดกรดเกินในกระเพาะอาหาร
ช่วยชะลอการย่อยอาหารให้เป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงอาการท้องอืดได้ด้วย
7.
ต้านเซลล์มะเร็ง เบต้าแคโรทีนในเปลือกส้มสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้
อีกทั้งการศึกษาจาก University
of Maryland Medical Center ยังเผยว่า
เบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง
ซึ่งสามารถป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ในร่างกาย หรืออธิบายง่าย ๆ
คือปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย
ลดโอกาสเสี่ยงที่เซลล์ในร่างกายจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งนั่นเอง
มีสารสำคัญที่นิยมใช้
คือ p-dichlorobenzene ซึ่งตาม พรบ. วัตถุอันตราย จัดเป็นวัตถุอันตรายประเภท 3
แต่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย เมื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน
หรือทางสาธารณสุขที่นำมาใช้เพื่อประโยชน์เพื่อระงับ ป้องกัน ควบคุม ไล่
กำจัดแมลงและสัตว์อื่น หรือเพื่อประโยชน์ในการดับกลิ่น
อันตรายจากน้ำหอมปรับอากาศ
ในปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มักพบปัญญาเกี่ยวกับสภาพอากาศอากาศที่ร้อนมากในปัจจุบัน
คนไทยในปัจจุบันเลยต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งอำนวยความสะดวก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างเครื่องปรับอากาศ เพื่อเป็นการบรรเทาความร้อนให้แก่ตนเอง
แต่ไม่คำนึงถึงโทษที่อยู่ในเครื่องปรับอากาศว่ามีอะไรบ้างและไม่คำนึงถึงผลเสียที่ตามมาของโลกและตัวเรา
ในปัจจุบัน มีน้ำหอมปรับอากาศต่างๆ
ที่เราใช้ในการดับกลิ่นให้กับห้อง หรือสถานที่ต่างๆให้เลือกกันมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำ แบบเจล แบบสเปรย์ แบบระเหยด้วยความร้อน
ทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกลิ่นที่เราชื่นชอบให้กระจายออกไปในบริเวณที่ได้ติดตั้งน้ำหอมเหล่านั้นเอาไว้
ลำพังตัวน้ำหอมนั้นคงไม่ได้ทำอันตรายให้กับเราได้สักเท่าไร
แต่สิ่งที่แฝงมากับน้ำหอมเหล่านี้ในบางผู้ผลิตนั้น น่าเป็นห่วงเพราะทำให้เกิดอันตรายจากน้ำหอมปรับอากาศอันแสนหอมหวนได้
ในประเทศสหรัฐอเมริกาเอง มีการตรวจสอบน้ำหอมปรับอากาศที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด
พบว่ามีจำนวนมากที่มีสาร “พาทาเลต”
ซึ่งเป็นกลุ่มของสารเคมีที่ใช้ในการละลายและเก็บส่วนที่เป็นน้ำหอมเอาไว้
สารเคมีกลุ่มนี้เป็นสารตัวเดียวกันกับที่ใช้ในการทำให้พลาสติกอ่อนตัวลง
และใช้ในการทำกาวต่างๆ และยังพบได้ในเครื่องสำอางอีกหลายอย่าง สี ยาทาเล็บ
และของเล่นเด็กอีก
มีการศึกษาในหนูทดลองและคนพบว่า ถ้าได้รับสารพาทาเลตในปริมาณมาก
จะเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งได้มากขึ้น มีผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศในทารกให้ผิดปกติไป
และยังพบว่ามีผลกระทบต่อความสามารถในการเจริญพันธุ์อีกด้วย เรียกได้ว่า พาทาเลต
นี้เป็นสารอันตรายจากน้ำหอมปรับอากาศที่มีผลได้มากกับคนเราเลยทีเดียว
บทที่ 3
วิธีการดำเนินโครงงาน
3.1 วัสดุ อุปกรณ์
เครื่องมือ หรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา
1. ผงวุ้นหรือเจราติน
2. น้ำเปล่า
3. กลิ่นสังเคราะห์
4. บรรจุภัณฑ์
3.2
ขั้นตอนการสร้างชิ้นงานตามแบบ
1.เติมน้ำลงในหม้อ
2.นำไปต้ม ใส่ผงวุ้น คนเรื่อยๆ
3.เมื่อผงวุ้นละลาย ปิดแก๊ส เติมกลิ่นสังเคราะห์
4.เทใส่บรรจุภัณฑ์ทิ้งไว้จนตัวดับกลิ่นแข็งตัว
3.3 ทดสอบและปรับปรุงชิ้นงานให้สามารถทำงานได้
ลดปริมาณผงวุ้นลง
3.4 รายงานปัญหาและปรับปรุงชิ้นงาน
ปัญหา:ไม่ค่อยมีกลิ่นออกจากก้อนดับกลิ่นเท่าที่ควร
ปรับปรุงชิ้นงาน:ลดปริมาณผงวุ้นลง
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
4.1 ผลการดำเนินงาน
ได้ก้อนดับกลิ่นกลิ่นเปลือกส้มที่มีกลิ่นหอมของส้มอยู่
4.2
การนำไปใช้ให้ครอบคลุมหน่วยบูรณาการของกลุ่มสาระในระดับม.2เรื่อง วิถีพอเพียง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง “พลังงานพอเพียง”
แนวทางการบูรณาการ การแยกสาร
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง “คณิตกับชีวิตประจำวัน”
แนวทางการบูรณาการ อัตราส่วนและร้อยละ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง “ภาษาสร้างสรรค์”
แนวทางการบูรณาการ การสื่อความหมาย
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง “ธรรมะสร้างสรรค์”
แนวทางการบูรณาการ การจัดการทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง “อยู่ดีมีสุข”
แนวทางการบูรณาการ วัยรุ่นและการเจริญเติบโตตามวัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เรื่อง “ศิลปะสร้างสรรค์”
แนวทางการบูรณาการ ความสัมพันธ์ที่เป็นภูมิปัญญาไทย
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง “ทักษะสร้างอาชีพ”
แนวทางการบูรณาการ การออกแบบบรรจุภัณฑ์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง “English Around us”
แนวทางการบูรณาการ Present simple tense and vocabulary
กลุ่มสาระการเรียนรู้กิจกรรมแนะแนว เรื่อง “แนะแนวอาชีพ”
แนวทางการบูรณาการ อาชีพสานสู่ฝัน
บทที่ 5
สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
การทำก้อนดับกลิ่น
ผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอน ดังนี้
1.เติมน้ำลงในหม้อ
2.นำไปต้ม ใส่ผงวุ้น คนเรื่อยๆ
3.เมื่อผงวุ้นละลาย ปิดแก๊ส เติมกลิ่นสังเคราะห์
4.เทใส่บรรจุภัณฑ์ทิ้งไว้จนตัวดับกลิ่นแข็งตัว
5.2 ปัญหาและอุปสรรค
กลิ่นไม่ค่อยออกเท่าที่ควร
5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
ควรกะปริมาณของเจราตินให้ดี
เพราะอาจทำให้ตัวเจลแข็งเกินไป และมีกลิ่นไม่มากเท่าที่ควร
ภาคผนวก
อ้างอิง